ครม.เห็นชอบปรับปรุง พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกฯ ช่วยประชาชนติดต่อราชการเร็วขึ้น

ครม.เห็นชอบปรับปรุง พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกฯ ช่วยประชาชนติดต่อราชการเร็วขึ้น

ครม.เห็นชอบหลักการปรับปรุง พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกฯ ลดภาระค่าใช้จ่าย ปชช. ติดต่อราชการ รวดเร็วขึ้น ง่ายขึ้น ถูกลง วันที่ 12 กรกฎาคม 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบหลักการในการปรับปรุง พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ.2558 และแผนการเตรียมความพร้อมการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามข้อเสนอการปรับปรุง พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกฯ ตามที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.) เสนอ

สำหรับสาระสำคัญและประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการปรับปรุงพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกฯครั้งนี้ 

จะช่วยสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศตามแนวทางของธนาคารโลก ใน 3 ด้าน ได้แก่

1. การบริการที่รวดเร็วขึ้น(Faster) เช่น การปรับเปลี่ยนการพิจารณาอนุญาตโดยคณะกรรมการเป็นหัวหน้าหน่วยงานคาดว่าจะสามารถปรับเปลี่ยนกระบวนงานที่มีการพิจารณาโดยคณะกรรมการจาก 604 งาน เหลือเพียง 43 งาน จะทำให้สามารถลดเวลาการพิจารณาได้เฉลี่ย 22 วันทำการต่องานบริการ

ส่วนการนำระบบการอนุญาตหลัก(Super License) มาใช้ในการอนุญาต จะส่งผลให้ผู้ประกอบการสามารถทำธุรกิจได้เร็วขึ้น เช่น การขออนุญาตของธุรกิจค้าปลีกจากเดิมที่ต้องติดต่อไม่น้อยกว่า 13 หน่วยงาน ใช้เวลา 284 วันทำการ เหลือเพียงติดต่อ 1 ช่องทาง ใช้เวลา 185 วันทำการ และกิจการสปา จากเดิมที่ต้องติดต่อไม่น้อยกว่า 9 หน่วยงานใช้เวลา 120 วันทำการ เหลือเพียงติดต่อ 1 ช่องทาง ใช้เวลา 96 วันทำการ

2. การบริการที่ง่ายขึ้น (Easier) เช่น การให้ทดลองประกอบกิจการเป็นการชั่วคราวก่อนได้รับใบอนุญาต คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้จำนวน 19 กิจการ ในกิจการที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น กิจการขายอาหารสัตว์ กิจการสปา การขยายจำนวนใบอนุญาตที่สามารถดำเนินการชำระค่าธรรมเนียมแทนการต่ออายุใบอนุญาต

จากปัจจุบันดำเนินการได้ 31 ใบอนุญาต เพิ่มเป็น 154 ใบอนุญาต เช่น ใบอนุญาตมัคคุเทศก์ ใบอนุญาตค้าโบราณวัตถุ จะทำให้ผู้ประกอบการได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้จำนวน 890,315 ราย ภาครัฐได้รับค่าธรรมเนียมเร็วขึ้นไม่น้อยกว่า 253 ล้านบาทต่อปี และการขยายอายุใบอนุญาตเป็นไม่น้อยกว่า 5 ปี หรือไม่มีอายุใบอนุญาต คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ไม่น้อยกว่า 19 ใบอนุญาต ซึ่งเป็นใบอนุญาตที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น

การออกใบอนุญาตขายปุ๋ย จะทำให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวกไม่ต้องไปติดต่อราชการเพื่อขอต่ออายุใบอนุญาตทุกปีประมาณ 764,850 ราย และลดภาระค่าใช้จ่ายรวมของประชาชนในการติดต่อราชการประมาณ 590 ล้านบาทต่อปี และ

3.การบริการที่ถูกลง (Cheaper) เช่น การปรับเปลี่ยนระบบการอนุญาตเป็นการจดแจ้งเพื่อลดระยะเวลาในการขออนุญาตในกิจการที่ไม่จำเป็นต้องมีการตรวจสอบ คาดว่าจะสามารถดำเนินการปรับเปลี่ยนได้ 11 ใบอนุญาต และปรับเปลี่ยนจากจดแจ้งเป็นจดแจ้งออนไลน์ได้ 72 งานบริการ จาก 336 งานบริการ ผู้รับบริการประมาณ 15.85 ล้านรายต่อปี จะทำให้ลดค่าใช้จ่ายรวมของประชาชนในการติดต่อราชการประมาณ 1,585 ล้านบาทต่อปี

และการกำหนดให้เมื่อใบอนุญาตชำรุด สูญหาย ไม่ต้องแจ้งความ 

คาดว่าจะช่วยลดจำนวนการแจ้งความลงได้ 66,000 ใบแจ้งความต่อปี ทำให้สามารถลดค่าเดินทางรวมของประชาชนประมาณ 6.6 ล้านบาทต่อปี

ปัจจุบัน กรมปศุสัตว์ได้มีการช่วยเหลือเยียวยาให้แก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากกรณีมีโค-กระบือป่วยตายจากโรคลัมปีสกินแล้วตามระเบียบกระทรวงการคลัง เกษตรกรได้รับความช่วยเหลือเยียวยาแล้วจำนวน 52,170 รายวงเงิน 1,212.72 ล้านบาท ที่ผ่านมา ครม. เห็นชอบเตรียมความพร้อมรับมือโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร โดยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ทั้งระยะก่อนเผชิญเหตุระยะเผชิญเหตุ และหลังเผชิญเหตุ ประกอบด้วย 8 มาตรการ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันโรคของฟาร์ม การเฝ้าระวังโรค การพัฒนาการตรวจวินิจฉัย การจัดการฟื้นฟูเกษตรกร เป็นต้น

เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ปี 2565 เช็คเงินผู้สูงอายุ ล่าสุด กรมบัญชีกลาง พร้อมจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุกว่า 10 ล้านคน เริ่มจ่ายรอบแรก 19 กรกฎาคมนี้

เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ วันที่ 13 กรกฎาคม นางสาววารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2565 การจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ จำนวน 10.94 ล้านคน วงเงิน 8,382.20 ล้านบาท เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านเศรษฐกิจ

ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ โดยผู้สูงอายุที่ได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จะได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ 100 – 250 บาท/คน/เดือน เป็นเวลา 6 เดือน (เมษายน – กันยายน 2565)

กรมบัญชีกลาง จะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร ให้แก่ผู้มีสิทธิรับเงินโดยตรง โดยจะจ่ายเงินรอบแรกในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ รวม 4 เดือน (เมษายน – กรกฎาคม 2565) ส่วนรอบถัดไปในวันที่ 19 สิงหาคม 2565 และ 19 กันยายน 2565

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า